วันอังคารที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556

สเต็กหอยแมลงภู่ซอสสะระแหน่รสแซ่บ



สเต็กหอยแมลงภู่ซอสสะระแหน่รสแซ่บ

OpenRice ขอนำเสนอสูตร “สเต็กหอยแมลงภู่ซอสสะระแหน่รสแซ่บ” จากรายการ “Happy Life กับคุณหรีด” ออกอากาศวันที่ 9 มิถุนายน 2555 เป็นเมนูอร่อยทำง่าย รสชาติแซ่บ ความจัดจ้านของซอสสะระแหน่ เข้ากันกับหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวโตที่นำมาผัดเคล้ากับเนยหอมๆ เป็นการผสมผสานกันที่ลงตัวสุดๆ
รูปภาพ
ความยากง่าย:ง่าย
ระดับความยากง่าย: ง่าย
Cook Time
เวลา:   15 นาที
สัญชาติอาหาร:ฟิวชั่น
ประเภทสัญชาติ:อาหารคาว
วิธีปรุง:อื่นๆ


วัตถุดิบและสัดส่วน:
1. หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
2. ใบสะระแหน่
3. กระเทียมสับ
4. พริกขี้หนูซอย
5. มะเขือเทศหั่นเต๋า
6. น้ำมะนาว
7. แม็กซิกันชีส
8. เนย
ขั้นตอนการปรุง:
1. ใส่เนยลงในกระทะ เอาหอยแมลงภู่ลงไปผัดกับเนยให้สุก เอาหอยแมลงภู่ขึ้นพักส่วนนี้ไว้
2. ผสมมะเขือเทศ กระเทียม พริกขี้หนู น้ำมะนาว น้ำปลา และใบสะระแหน่สับเข้าด้วยกัน
3. จัดหอยแมลงภู่ใส่จาน ราดซอสสะระแหน่รสแซ่บลงไปบนตัวหอย โรยชีสแม็กซิกันด้านบน
เคล็ดลับ:
นอกจากการทำให้เนื้อหอยสุกโดยการนำมาผัดกับเนยแล้ว ยังสามารถนำหอยลงไปต้มในน้ำเดือดให้สุก แล้วจึงนำมาราดซอสแล้วโรยชีสได้เช่นเดียวกันค่ะ 
วิธีการปรุง คือ ตอนที่ต้มใส่เกลือและต้นหอม พอน้ำเดือดค่อยใส่หอยแมลงภู่ เพื่อไม่ให้คาว และอย่าต้มนาน เพราะถ้าสุกเกินไปจะไม่อร่อย
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์
ลงผัดกับเนย
ลงผัดกับเนย
จัดใส่จาน
จัดใส่จาน
ราดซอสรสแซ่บ
ราดซอสรสแซ่บ




ปลาแซลมอนรมควันแช่นํ้าปลา


ปลาแซลมอนรมควันแช่น้ำปลา

ชอบทานปลาแซลมอนรมควัน เลยซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตบ่อยๆ แต่จะกินเปล่าๆมันก็จำเจเกินไป แม้ว่าจะชอบมากก็ตาม เลยนำมาปรับทำเป็นปลาแซลมอนรมควันแช่น้ำปลา แซลมอนรมควันปกติก็หอมอยู่แล้วเอามาทำแบบนี้เพิ่มรสชาติจัดจ้านเข้าไปอีกค่ะ เด็ดจริงๆนะ
รูปภาพ
ความยากง่าย:ง่าย
ระดับความยากง่าย: ง่าย
Cook Time
เวลา:   10 นาที
สัญชาติอาหาร:ฟิวชั่น
ประเภทสัญชาติ:อาหารคาว
วัตถุดิบหลัก:ปลา | พริก
วิธีปรุง:ยำ

วัตถุดิบและสัดส่วน:
1. ปลาแซลมอนรมควัน
2. พริกขี้หนู
3. กระเทียม
4. ใบสะระแหน่
5. น้ำปลา
6. น้ำมะนาว
7. น้ำตาลทราย
ขั้นตอนการปรุง:
1. ทำน้ำราดรสเด็ดกันก่อนนะคะ โดยผสมน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน
2. อน้ำตาลละลายแล้ว ใส่พริกขี้หนูสับ กระเทียมสับลงไปคลุกเคล้า
3. จัดปลาแซลมอนรมควันลงจานให้สวยงามตามชอบเลยค่ะ แล้วราดด้วยน้ำราด โรยด้วยใบสะระแหน่ก่อนเสิร์ฟ
เคล็ดลับ:

กินแซลมอนลดน้ำหนักได้?

"แซลมอน" ได้ชื่อว่าเป็นปลาจากแหล่งบริสุทธิ์ที่ไร้มลพิษและมีคุณค่ามากมาย เพราะระหว่างที่อยู่ในทะเล แซลมอนจะสะสมไขมันจากการกินแพลงตอนและสาหร่ายทะเล ซึ่งเป็นไขมันจำเป็นที่ร่างกายมนุษย์ต้องการแต่สร้างขึ้นเองไม่ได้ นั่นคือกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่เรียกว่า โอเมกา-3 ซึ่งมีประโยชน์มากมายต่อมนุษย์

เชื่อกันว่า ปลาทะเลเขตหนาวของมหาสมุทรแอตแลนติก (หรืออลาสก้าของประเทศสหรัฐอเมริกา) จะมีโอเมกา-3 มากกว่าในเขตร้อน โดยเฉพาะปลาแซลมอนจัดว่าเป็นปลาที่มีโอเมกา-3 สูงกว่าปลาทะเลชนิดอื่นๆ ซึ่งกรดไขมันโอเมกา-3 นี้จะประกอบไปด้วยกรด EPA และ DHA
การรับประทานปลาแซลมอนจึงมีคุณค่าทางโปรตีนสูง ส่วนไขมันและคอเรสเตอรอลนั้นต่ำมาก และยังสามารถทดแทนสารอาหารที่ได้จากเนื้อวัว เนื้อหมู และสัตว์อื่นๆ นอกจากนี้นักวิจัยชาวออสเตรเลียยืนยันมาว่าหากรับประทานบ่อยครั้ง จะช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย


อ้างอิง : http://onknow.blogspot.com

เดรสซิ่งเลมอนวาซาบิ


เดรสซิ่งเลมอนวาซาบิ

OpenRice ขอนำเสนอสูตร “เดรสซิ่งเลมอนวาซาบิ” Happy Life กับคุณหรีด” ออกอากาศวันที่ 4 ลิงหาคม 2555 คุณหรีดขอฝากเมนูลดความอ้วน ที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากหลาย แต่หัวใจสำคัญของจานนี้อยู่ที่น้ำสลัด
รูปภาพ
ความยากง่าย:ง่าย
ระดับความยากง่าย: ง่าย
Cook Time
เวลา:   15 นาที
สัญชาติอาหาร:ฟิวชั่น
ประเภทสัญชาติ:อาหารว่าง
วิธีปรุง:อื่นๆ

วัตถุดิบและสัดส่วน:
1. เชอร์รี่
2. สตรอเบอร์รี่
3. แอปเปิ้ล
4. คอร์นเฟลกส์
5. งาขาว
6. ไข่แดง 
7. น้ำตาลทรายขาว
8. น้ำมันสลัด
9. น้ำมะนาวเลมอน
10. นมข้นหวาน
11. วาซาบิ
12. เกลือ
ขั้นตอนการปรุง:
1. ตีไข่แดง 2 ฟอง น้ำตาลทรายและเกลือให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
2. ค่อยๆเหยาะน้ำมันสลัดผลัดกับการตี ไปเรื่อยๆจนหมด 1 ถ้วยตวง
3. ใส่นมข้นหวาน วาซาบิ น้ำมะนาว คนต่อให้เข้ากัน
4. จัดผลไม้และผักลงจาน ราดด้วยเดรสซิ่งเลมอนวาซาบิ โรยคอร์นเฟลกซ์และงาขาว
เคล็ดลับ:
1. ในขณะที่ตีไข่ให้ตีไปในทางเดียวกัน ให้ตีวนไปวนมา
2. ห้ามเทน้ำมันสลัดลงไปทีเดียวพร้อมกัน เพราะจะทำให้น้ำสลัดแยกตัว
__________________________________________________________________________________

วาซาบิ กำจัดพยาธิในปลาดิบ

กลิ่นฉุนของวาซาบิจะช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารทะเลได้ทุกชนิด เพราะสารที่อยู่ในวาซาบิเมื่อฝนเป็นแป้งกระทบกับออกซิเจนในอากาศ จะเกิดปฏิกิริยาเป็นทั้งกลิ่นฉุนและให้รสรุนแรง สารนี้จะมีประโยชน์ในการกระตุ้น
ต่อมน้ำลายให้ขับน้ำลายออกมา ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการย่อย อีกทั้งในวาซาบิยังอุดมด้วยวิตามินซี
นอกจากจะช่วยดับกลิ่นคาวแล้วยังมีสรรพคุณทางยาดังนี้
-ฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค พบว่าวาซาบิมีผลในการฆ่าเชื้อโรค และสามารถต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด
-กำจัดพยาธิที่อาศัยอยู่ในปลาได้ เมื่อผ่านเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารของมนุษย์
-ฤทธิ์ต่อต้านสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งของกระเพาะอาหาร
-ป้องกันเส้นเลือดอุดตัน ฤทธิ์ต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
-ป้องกันฟันผุ ในอนาคตอาจนำไปประยุกต์เป็นส่วนผสมในยาสีฟันได้
ช่วยกระตุ้นในการสร้างภูมิคุ้มกันในการกำจัดเซลล์ที่เริ่มผิดปกติ


อ้างอิง : th.wikipedia.org

สลัดไก่ทอด


สลัดไก่ทอด

ทอดทำไม่ยากเลยค่ะ แถมออกมาหน้าตาดี กินผักกันเยอะนะคะ ไก่ทอดก็ทำมาจากเนื้ออกไก่ไร้มันค่ะ ทอดเสร็จแล้วก็ซับน้ำมันออกกันด้วยนะ อยากอร่อยแบบสุขภาพดีต้องพิถีพิถันนิดนึงค่ะ
รูปภาพ
ความยากง่าย:ง่าย
ระดับความยากง่าย: ง่าย
Cook Time
เวลา:   30 นาที
สัญชาติอาหาร:ฟิวชั่น
ประเภทสัญชาติ:อาหารคาว
วิธีปรุง:อื่นๆ
วัตถุดิบและสัดส่วน:
1. ไก่ทอดแช่แข็ง 
2. ไส้กรอก
3. แครอทหั่นฝอน
4. มะเขือเทศสีดา
5. ผักกาดแก้ว
6. สลัดครีมสำเร็จรูป
7. พริกไทยดำป่น
ขั้นตอนการปรุง:
1. นำสลัดครีมมาผสมกับพริไทนดำป่น เติมน้ำมะนาวเล็กน้อย ตีให้เข้ากันฃ
2. นำไก่ทอดแช่แข็งมาทอดให้เหลือง นำขึ้นมาพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำมัน
3. นำไส้กรอกมาบั้งเล็กน้อย แล้วนำไปทอดให้ผิวด้านนอกกรอบเหลือง พักให้สะเด็ดน้ำมัน
4. จัดผักต่างๆลงในจานให้สวยงาม วางไก่ทอด และไส้กรอกทอดลงไป
5. นำสลัดครีมมาราดด้านบนให้ทั่ว ก่อนรับประทาน อย่าลืมคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนนะคะ
เคล็ดลับ:
สลัดครีม VS มายองเนส

เมื่อดูส่วนประกอบและลักษณะภายนอกของสลัดครีมเทียบกับมายองเนสแล้ว จะพบว่าสลัดครีมกับมายองเนสนั้นมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่จริงๆแล้วมันมีความแตกต่างกันค่ะ
อันดับแรก คือ รสชาติ สลัดครีมปกติจะออกรสหวานกว่า และมายองเนสจะออกเปรี้ยวมากกว่า
อันดับสอง คือ สลัดครีมมีส่วนผสมของไข่แดงมากกว่ามายองเนส ทำให้สีของสลัดครีมออกเหลืองมากกว่ามายองเนส
อันดับสุดท้าย คือ เปอร์เซ็นต์ของไขมัน ในมายองเนสจะมีเปอร์เซ็นต์ของไขมันประมาณ 60% แต่ในสลัดครีมจะมีแค่ประมาณ 30-50%
นอกจากส่วนประกอบ ลักษณะภายนอก และรสชาติที่แตกต่างกันแล้ว การนำไปใช้ก็ยังมีความแตกต่างกันด้วย มายองเนสสามารถนำไปเป็นซอสจิ้ม หรือนำไปผสมส่วนประกอบอื่นๆกลายเป็นเดรสซิ่งหรือน้ำสลัดได้ ในขณะที่สลัดครีมเป็นได้เพียงสลัดครีมทานกับผักสลัด แต่หลายครั้งทั้ง 2 อย่างนี้ก็สามารถนำมาใช้แทนกันได้ ไม่ซีเรียสหรอกค่ะ


อ้างอิง : www.pim.in.th

สูตรการทำซูซิผลไม้


ซูชิผลไม้

ขนมสำหรับงานเลี้ยงเล็กๆเบาๆค่ะ เลยเลือกทำขนมเก๋ หน้าตาน่ากินมาก น่ารักและอร่อยด้วยค่ะ ซูชิผลไม้พวกนี้เป็นฟิวชั่นฟู้ดน่าจะได้นะคะ เพราะข้าวซูชิเป็นข้าวเหนียวมูนค่ะ ส่วนผลไม้ที่ทำเป็นหน้าก็หลากหลาย เลือกเอาที่สีสวยๆเป็นหลักค่ะ
รูปภาพ
ความยากง่าย:ปานกลาง
ระดับความยากง่าย: ปานกลาง
Cook Time
เวลา:   30 นาที
สัญชาติอาหาร:ฟิวชั่น
ประเภทสัญชาติ:อาหารหวาน
วัตถุดิบหลัก:ผลไม้ | กะทิ
วิธีปรุง:อื่นๆ
1. ข้าวเหนียวมูน
2. องุ่น 
3. กีวี 
4. มะม่วง 
5. แก้วมังกร 
6. สตรอเบอร์รี่
7. สังขยา
ขั้นตอนการปรุง:
1. นำผลไม้ทุกอย่างมาฝานบางๆ
2. ปั้นข้าวเหนียวมูนเป็นก้อนๆแบบซูชิ
3. วางด้านบนข้าวด้วยผลไม้ชนิดต่างๆ ให้สวยงาม 
4. หน้าสังขยาใช้ช้อนตักสังขยาเป็นแผ่นบางๆวางหน้าข้าวเหนียวให้สวยๆ
5. จัดเรียงใส่จานหรือถาดให้สวยงาม
เคล็ดลับ:
ซูชิอาหารญี่ปุ่นระดับโลก

ซูชิ หรือ ข้าวปั้นมีหน้า เป็นอาหารญี่ปุ่น ที่ข้าวมีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู และกินคู่กับปลา เนื้อ หรือ ของคาวชนิดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ซูชิมักจะหมายถึงอาหารที่มีส่วนประกอบของ ซูชิเมะชิ และมีหน้าแบบต่างๆเป็นหน้า ที่นิยมได้แก่ อาหารทะเล ผัก ไข่ เห็ด เนื้อที่นำมาใช้อาจจะเป็นเนื้อดิบ หรือ เนื้อที่ผ่านกระบวนการทำอาหารแล้ว สำหรับในประเทศอื่น และซูชิส่วนใหญ่มักใส่วาซาบิ บนข้าวเพื่อให้ได้ความอร่อยมากยิ่งขึ้น
ซูชิ หมายถึง การรวมกันระหว่างปลากับข้าว ซูชิมีวิวัฒนาการมาเมื่อหลายร้อยปีมาแล้วซึ่งเกิดจากความต้องการถนอมอาหารของคนญี่ปุ่น คำว่า "ซูชิ" นิยมหมายถึง นิงิริซูชิ ที่เป็นข้าวมาอัดเป็นก้อนและมีเนื้อปลาวางบนด้านหน้าเท่านั้น


อ้างอิง : th.wikipedia.org

อาหารฟิวชั่นไทยญี่ปุ่น

10 จานเด็ดอาหารญี่ปุ่นแนวฟิวชั่น
>> เชื่อว่าในภาวะนี้ หลายๆ คนคงจะกำลังเครียดกับปัญหาอุทกภัยที่กำลังรุมเร้ากรุงเทพฯ ทั้งข่าวน้ำขึ้น ข่าวเขื่อนแตก ข่าวกักตุนอาหาร ข่าวน้ำประปา ดังนั้นวันนี้เราจะชวนคุณหันมาคลายเครียดด้วยการพาไปรู้จัก อาหารญี่ปุ่น เมนูอร่อยๆ จากร้านชั้นนำที่ได้รับการคัดสรรมาแล้ว ไม่ได้จะเอามายั่วน้ำลาย แค่อยากให้ลองอ่านเก็บเอาไว้เป็นข้อมูล เผื่อน้ำลดเมื่อไร ถ้าอยากรับประทานอาหารญี่ปุ่นเมนูไหน จะได้เลือกไปกันถูกร้าน 
       

       ซึ่งเมนูอาหารญี่ปุ่นเหล่านี้ เป็นการคัดสรรมาจาก ยูนิลีเวอร์ ฟู้ดโซลูชั่นส์ กลุ่มธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสในเครือยูนิลีเวอร์ ที่ไปเสาะหาและรวบรวมเอาอาหารญี่ปุ่นแนวฟิวชั่นจานเด็ดที่ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพ จากแบรนด์อาหารอย่างคนอร์และเบสท์ฟู้ด ซึ่งมีทั้งหมด10 จาน จาก 10 เชฟคนเก่ง ใน 10 ร้านดัง จะมีเมนูอะไรของร้านไหนบ้าง ลองไปดูกัน 
      
       

      

       1. ปลาทูน่าเนื้อแดงกับซอสมะม่วงวาซาบิมาโย 
       เมนูซิกเนเจอร์โดย เชฟอาณณฑ์ เคณฑ์ มะซังหลง เชฟเดอควิซีน เชฟผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมานานกว่า 30 ปี จากร้านอซูร์ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ต ซึ่งสร้างสรรค์จากแรงบันดาลใจจากรสชาติที่หลากหลายส่วนผสมจนสร้างสรรค์เป็นอาหารฟิวชั่นรสเลิศอย่างลงตัว เริ่มจากปลาทูน่าเนื้อแดงที่ผ่านกระบวนการปรุงรสด้วยเครื่องปรุงชั้นดี พร้อมชุบไข่ขาวและคลุกเกล็ดขนมปัง และนำไปจี่ทำให้ได้รสสัมผัสที่กรอบนอกนุ่มใน เมื่อรับประทานคู่กับซอสมะม่วงวาซาบิมาโย ที่รสชาติเข้มข้นและหลากหลายทั้งรสเผ็ดจากวาซาบิและหอมหวานอมเปรี้ยวด้วยมะม่วงสุก และเรียล มายองเนส ที่สำคัญเสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุกหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋าและพริกชี้ฟ้าแดงให้รสชาติกลมกล่อมไม่เหมือนใคร (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 032-616-999)
      
       

      

       2. แซลมอนเคล้าถั่วไพน์นัทกับซอสอโรมาตพอนซึ 
       โดย เชฟฮิซาชิ อิวาตะ เอ็กเซคคูทีฟเชฟ ร้านโคอิ (KOI) ผู้สั่งสมประสบการณ์การทำอาหารญี่ปุ่นด้วยตำแหน่งหัวหน้าเชฟในต่างประเทศทั้งในนครนิวยอร์ก ลาสเวกัส ซีแอตเทิล และลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเกิดจากการผสมผสานของซอสอโรมาตพอนซึรสเข้มข้นที่เลือกใช้ส่วนผสมผงอาโรมาต ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมักเนื้อและโรยปรุงรสอาหาร เมื่อรับประทานคู่กับเนื้อปลาแซลมอนสดชั้นเลิศที่คลุกเคล้าด้วยไพน์นัทบดหยาบที่ถูกคั่วจนเป็นสีน้ำตาล เมื่อเคี้ยวจะได้ทั้งรสชาติหวานนิดเค็มหน่อยของซอส พร้อมกลิ่นหอมและสัมผัสกรุบกรอบของไพน์นัท (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-258-1590)
      
       

      

       3. คาร์ปักซิโอหอยเชลล์ฮอกไกโด 
       โดย เชฟประเสริฐ จันทรพุ่ม ซูเชฟ (Sous Chef) ร้านฟูซิโอ จานนี้เป็นอาหารฟิวชั่นเพื่อสุขภาพรสเยี่ยมที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมยุโรปกับเอเชีย ซึ่งมีความพิเศษที่การคัดสรรส่วนผสมชั้นเลิศซึ่งเป็นพระเอกของจานนี้นั่นคือ “หอยเชลล์สด” ที่ส่งตรงจากฮอกไกโด เมื่อนำมาหมักด้วยน้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิ้น เพิ่มความจัดจ้านด้วยผงรสมะนาว เกลือและพริกไทยก็จะยิ่งดึงความหวานของเนื้อหอยให้ติดลิ้นมากขึ้น เมื่อรับประทานคู่กับซอสไข่ปลาค็อดมายองเนส ยิ่งให้สัมผัสนุ่มลิ้นของไข่ปลาค็อตและหวานมันของเรียล มายองเนส เติมคุณค่าด้วยผักสลัดกรอบกับน้ำสลัดซอสเห็ดทรัฟเฟิลดำรสชาติกลมกล่อม (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-711-6999)
      
       

      

       4. หอยนางรมในสาเกและน้ำสต๊อกญี่ปุ่น 
       โดย เชฟลลิตตา บัวเทศ เชฟและผู้จัดการทั่วไป ร้านบูโชต์ เมนูฟิวชั่นเรียกน้ำย่อยสุดสร้างสรรค์ที่นำอาหารทะเลยอดนิยมอย่างหอยนางรมมาผสมผสานกับซอสสไตล์ญี่ปุ่น ด้วยการนำหอยนางรมมาต้มในน้ำสต๊อกญี่ปุ่น สาหร่ายญี่ปุ่นแห้ง นม ซีอิ๊ว สาเกพร้อมเพิ่มรสชาติให้น้ำสต๊อกด้วยซุปรสไก่ เมื่อเคี้ยวหอยนางรมและไข่กุ้งดำในคำเดียวกัน จะได้รสสัมผัสความหวานของหอยนางรมไปพร้อมๆ กับความกรุบกรอบของไข่กุ้งดำ (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-258-5509-10) 
      
       

      

       5. แซนด์วิชแซลมอนรมควันคลุกเคล้าวาซาบิเดรสซิ่ง 
       โดย เชฟสมจิตร์ ลาภสุนทร เอ็กเซคคิวทีฟเชฟ ร้านเทดส์คาเฟ่ เชฟผู้สั่งสมประสบการณ์ด้านการทำอาหารเป็นเวลากว่า 30 ปี ผู้สร้างสรรค์เมนูแซนด์วิชที่รสชาติลงตัวจากทั้งส่วนผสมสไตล์เอเชียและตะวันตก แซนด์วิชเมนูพิเศษที่ใช้แผ่นแป้งโรตีแทนขนมปัง โดยไส้มีทั้งปลาแซลมอนรมควัน ผักกรีนโอ๊ค หอมหัวใหญ่ และแตงกวาดอง พร้อมกลิ่นอายของญี่ปุ่นให้กับแซนวิชด้วยวาซาบิเดรสซิ่งที่มีเคล็ดลับตรงที่ใช้เรียล มายองเนสมาลดความเผ็ดของวาซาบิให้น้อยลง พร้อมโรยไข่กุ้ง มะเขือเทศเชอร์รี่ มะกอกดำ และพาร์สลีย์ เมื่อรับประทานแล้วให้ถึง 4 รสชาติทั้งเผ็ด เปรี้ยว เค็ม หวานมันในคำเดียว แถมยังให้สัมผัสกรุบกรอบของไข่กุ้ง เหมาะกับเป็นอาหารกินเล่นสำหรับสาวๆ ที่รักสุขภาพ (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0-2260-0205-6) 
      
       

      

       6. ยำแซลมอนโรล 
       โดย เชฟขนบพร น้ำเพชร เอ็กเซคคูทีฟ เชฟจากร้านเดอะสตอรี่ อาหารฟิวชั่นสัญชาติไทยผสานญี่ปุ่น เป็นอาหารจานเด็ดของร้านที่ผสานความคิดสร้างสรรค์ของเชฟจนได้อาหารฟิวชั่นรสชาติไทยๆ แบบครบรสทั้งเผ็ดและเปรี้ยว ด้วยการนำแซลมอนรมควันที่ทำให้ได้กลิ่นอายอาหารญี่ปุ่นมาห่อเข้ากับมะระจีน กระเทียมซอย กะหล่ำปลีซอยบาง และวาซาบิสด ก่อนจะราดด้วยน้ำยำรสชาติจัดจ้านในแบบไทยๆ เมื่อเคี้ยวจะให้ทั้งรสเผ็ด เค็มและเปรี้ยวด้วยผงรสมะนาว เหมาะกับเป็นกับแกล้มของหนุ่มสาวนักดื่ม (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-575-3535-6) 
      
       

      

       7. เรอมูลาร์ดเนื้อปูอโวคาโดผสมอารากิริวาซาบิเรียลมายองเนส 
       โดย เชฟตนัย พจน์อารีย์ เอ็กเซคคูทีฟเชฟ ร้านทรีครีปเปอร์ ที่รวมวัฒนธรรมของอาหารฝรั่งเศสและญี่ปุ่นไว้อย่างลงตัว ซึ่งเมนูนี้มีจุดเด่นตรงที่เป็นอาหารจานเย็นที่ใช้เรอมูลาร์ดซอส ซึ่งเป็นซอสที่ใช้ในการปรุงอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศฝรั่งเศสเป็นหลักในการให้รสชาติ โดยมีส่วนผสมหลักอย่าง “เรียล มายองเนส” ผสมกับมัสตาร์ด เคเปอร์ และเครื่องเทศนานาชนิด ให้รสชาติหวานมันเผ็ดกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศ เมื่อนำมาคลุกเคล้ากับปูนึ่ง และอารากิริวาซาบิที่ไม่มีขายในเมืองไทย ต้องนำเข้ามาจากญี่ปุ่นเท่านั้น เมื่อตักเข้าปากในแต่ละคำจะให้รสสัมผัสหลากหลายที่รวมเป็นหนึ่งเดียวทั้งความเผ็ดและสัมผัสเกร็ดกรุบกรอบจากอารากิริวาซาบิ และความอร่อยกลมกล่อมละมุนลิ้นจากเรอมูลาร์ดซอส (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0-2636-2525) 
      
       

      

       8. สปาเก็ตตี้ปลาแซลมอนรมควัน ไข่ปลาเมนไทโกะและบอทตากา 
       โดย เชฟสมควร พละศักดิ์ เอ็กเซคคูทีฟ ซู เฟชจากร้านฮาร์วีย์ เส้นสปาเก็ตตี้คุณภาพดีให้สัมผัสเหนียวนุ่มที่คลุกเคล้าด้วยไข่ปลาเมนไทโกะ และครีมซอสรสจัดจ้านแบบไทยๆ เมื่อรับประทานกับแซลมอนรมควันที่ให้รสชาติเค็มนิดๆ แถมกลิ่นหอมของน้ำมันมะกอก พริกไทย กินแล้วหยุดไม่ได้จริงๆ (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-712-9911) 
      
       

      

       9. โซบะเย็นกับสลัดกุ้งแม่น้ำ 
       โดย เชฟต่อสิทธิ์ สฤษฎิ์วงษ์ เอ็กเซคคูทีฟเชฟจากร้านเกรย์ฮาวด์ คาเฟ่ เสนออาหารฟิวชั่นจานเย็นที่รสชาติลงตัวด้วยการคลุกเคล้าเส้นโซบะเหนียวนุ่มกับน้ำสลัดสไตล์ญี่ปุ่นปรุงด้วยผงอาโรมาต ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมักเนื้อและโรยปรุงรสอาหาร และเพิ่มความพิเศษด้วยกุ้งแม่น้ำ เนื้อสด กรุบกรับเล็กน้อย เคี้ยวได้เพลินๆ เติมคุณค่าด้วยสลัดผักสดกรอบ อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 0-2664-866) 
      
       

      

       10.สเต๊กปลากระพงและกุ้งกับสมุนไพรทอดกรอบราดซอสมะขามมิโซะ 
       โดย เชฟยงยุทธ ต๊ะวงศ์ เฮดเชฟจากร้านมาเรียพิซเซอเรีย แอนด์ เรสเตอรองต์ เมนูฟิวชั่นเพื่อสุขภาพกับสเต๊กปลากระพงที่คัดสรรจากปลากระพงขาวสด และกุ้งทอดที่ใช้กุ้งแชบ๊วยนำมาปรุงรสด้วยอาโรมาต ที่สามารถใช้ได้ทั้งหมักเนื้อและโรยปรุงรสอาหาร และนำมาจิ้มกับซอสมะขามมิโซะที่ใช้ซอสมะขามเปียกเข้มข้นยิ่งเพิ่มรสชาติของอาหารจานนี้ เมื่อเคี้ยวให้สัมผัสกรอบของปลาและกุ้งทอด พร้อมซอสที่ให้รสชาติ 3 รสทั้งเปรี้ยวเค็มหวาน แถมด้วยสมุนไพรทอดกรอบให้ประโยชน์กับร่างกาย (สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 02-927-3564-5) 
      
       ทั้ง 10 จานนี้มีให้บริการตามร้านที่กล่าวมาแล้ว ใครอยากชิมเมนูไหน เดินทางไปกันได้ ถ้าอย่างไร ไม่แน่ใจว่าที่ไหนเปิดให้บริการ หรือที่ได้ประสบภัยกับน้ำท่วมบ้าง ก็ลองโทรเช็คสอบถามล่วงหน้าก่อนละกันนะค่ะ จะได้ไม่เดินทางไปเสียเที่ยว :: Text by FLASH
   
       

      
       
       >> อัปเดตข่าวในแวดวงสังคม กอสซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่  http://www.celeb-online.net